GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "FAIRY TAIL: Force Unite!"
5 ตัวละคร SS น่าใช้ใน FAIRY TAIL: Force Unite!
ตัวละครระดับ SS นับว่าเป็นคีย์หลักของการจัดทีมใน "FAIRY TAIL: Force Unite!" เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นพลังการโจมตีที่รุนแรงหรือความถึกก็ตามมันทำให้ทีมของเราต่อสู้ได้ง่ายขึ้น วันนี้เลยอยากจะมาแนะนำตัวละคร SS น่าใช้และน่ามีอยู่ในทีม แต่ละตัวมีความแตกต่างและดาเมจที่รุนแรงเหมาะกับทุกสไตล์การเล่นเลยแหละ เอลซ่า วิธีได้รับ : กิจกรรมลงทะเบียนล่วงหน้า จุดเด่น : ถึก สกิลเด่น : กงล้อสวรรค์ ดาบทรินิตี้ เอลซ่า ตัวละครที่เราได้มาฟรีจากกิจกรรมยอดผู้ลงทะเบียนล่วงหน้าถึง 5 แสนคน ความดีงามของเอลซ่าคือเธอเป็นตัวละครที่ถึกมาก แม้สกิลโจมตีจะไม่รุนแรงเท่า SS ตัวอื่นแต่ก็มีสกิลอย่าง "กงล้อสวรรค์ ดาบทรินิตี้" ที่แรงพอจะเก็บศัตรูได้ และสกิลแบบหมู "กงล้อสวรรค์ บลูเมนแบลท" เป็นสกิลที่ศัตรูไม่สามารถป้องกันได้ เธอเหมาะกับทุกรูปแบบทีม สกิลที่ใช้โจมตีมีทั้งแบบหมู่และเดี่ยวถึงจะบอกว่าสกิลไม่แรงเท่าตัว SS ตัวอื่นแต่ก็แรงกว่าจอมเวทย์ระดับต่ำกว่าแน่นอน แถมยังเป็นตัวฟรีที่ได้มาตั้งแต่เวลแรกๆ ช่วยให้เราทำเควสได้ง่ายขึ้นเยอะ ลัคซัส วิธีได้รับ: ล็อคอินครบ 3 วัน จุดเด่น: สกิลแบบหมู่แรง สกิลเด่น: มังกรสายฟ้าคำราม ตัวละคร SS อีกตัวที่ได้มาจากกิจกรรมล็อคอินครบ 3 วัน เป็นตัวที่มาตอนเวลแรกๆ เช่นเดียวกับเอลซ่า ลัคซัสเป็นจอมเวทย์ที่โจมตีแรงและมี SPD สูง ทำให้เวลาเริ่มต่อสู้เขาจะเป็นคนแรกในทีมที่ออกท่าโจมตีก่อน สกิลของลัคซัสส่วนใหญ่จะเป็นแบบหมู่และแรงมาก โจมตีทีหายกันทั้งแถบ เหมาะกับทุกรูปแบบทีม นอกจากสกิล "มังกรสายฟ้าคำราม" ที่ลัคซัสมักจะให้บ่อยๆ แล้ว สกิล "เรจจิ้งโบลท์" ก็แรงไม่แพ้กัน แถมยังมีสกิลแบบเดี่ยวที่โคตรจะแรงอย่าง "ง้าวมังกรสายฟ้าทะยานนภา" เอาไว้เก็บตัวบอสได้สบา่ย นับว่าเป็นตัวที่มีความครบครันเลยทีเดียว เจราล วิธีได้รับ: กิจกรรมเมจิกเฮ้าส์ จุดเด่น: มีสกิลหยุดและโจมตีแรง สกิลเด่น: เวทแห่งท้องฟ้า-สวรรค์ทมิฬ 1 ใน 10 จอมเวทย์ผู้แข็งแกร่งและยังเป็น 1 ในสภาจอมเวทย์ ผู้อยู่เบื้องหลังหอคอยสวรรค์ เจราล ในเกมนี้ก็โหดไม่แพ้ในการ์ตูนเลยด้วยสกิลอย่าง "โบน์เนค" ที่สามารถหยุดศัตรูไม่ให้โจมตีได้เมื่อใช้ "โกสต์ฟลิค" นับว่าเป็นประโยชน์มากในการหยิบไปล่าบอส และสกิล "เวทแห่งท้องฟ้า-สวรรค์ทมิฬ" และ "ดาบเจ็ดดารา" สกิลโจมตีแบบหมู่ที่สร้างความเสียหาย 140% ของพลังเวทแก่ศัตรู 5 คน ใช้ทีหายทั้งกระดานเลยล่ะ กิลดาซ วิธีได้รับ: ซื้อได้ที่ร้านค้า ร้านแฟรี่ สินค้าหายาก จุดเด่น: โจมตีแรงและมีสกิลสลายเวทของศัตรู สกิลเด่น: ทลาย จอมเวทย์ระดับ S จากแฟรี่เทล กิลดาซ ชายผู้ทำลายทุกอย่างที่เขาจับ ในเกมนี้ก็เช่นกันตัวละคร SS กิลดาซ เหมาะสำหรับสายเปย์เป็นที่สุด เขามีสกิล "ทลาย" ที่โคตรจะรุนแรงแถมยังทำดาเมจกับศัตรู 5 คนด้วยความเสียหาย 120% ของพลังโจมตีที่สำสำคัญศัตรูไม่สามารถโต้กลับสกิลนี้ได้ ไม่ใช่แค่สกิลหมู่ที่แรงสกิลเดี่ยวอย่าง "สวรรค์พุ่งชมปีศาจ-ประจักษ์ความจริงพินาศ" ที่สร้างความเสียหาย 300% ของพลังโจมตี แค่นั้นยังไม่พอนอกจากสกิลโจมตีที่รุนแรงตัวกิลดาซยังมีบัฟในการสลายเวทของศัตรูเมื่อโจมตีอีกด้วย อุลเทีย วิธีได้รับ: กิจกรรมในเกม จุดเด่น: ฮีลแรง ชุบเพื่อนทั้งทีมได้ สกิลเด่น: ลาสต์เอจิส ปิดท้ายด้วยตัวละครสายซัพพอร์ต อุลเทีย ลูกสาวสุดสวยของจอมเวทย์น้ำแข็ง อุล เธอไม่ได้เก่งแค่ในการ์ตูนเท่านั้นเพราะในเกมเธอเป็นซัพที่ฮีลโคตรแรงอย่าง "อาร์คแห่งเวลา" ที่ฟื้น HP ให้คนในทีมถึง 4 คน บวกด้วยบัฟจาก "ลอสต์ไทม์" ที่ช่วยให้ Heal Crit เพิ่มขึ้น 3% ไม่เพียงแต่ฮีลเท่านั้นที่เป็นประโยชน์กับทีมเธอยังมีสกิล "ลาสต์เอจิส" ที่สามารถชุบชีวิตเพื่อนในทีมได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีสกิลโจมตีที่ได้มาจากแม่ของเธออย่าง "ไอซ์เมก-โรเซนครานว์" ที่สร้างความเสียหายแบบหมู่ 110% ของพลังเวทอีกด้วย ก็จบลงไปแล้วสำหรับ 5 ตัวละคร SS น่าใช้ใน FAIRY TAIL: Force Unite! เพื่อนๆ คนไหนสนใจก็ลองเอาไปจัดทีมกันได้แต่ละตัวมีประโยชน์มากเลยแหละ แต่ในเกมยังมีตัวละคร SS ที่แข็งแกร่งอีกเยอะไม่ว่าจะเป็นปู่มาคาลอฟ เจ้าชายแห่งเอโดลาสมิสกัน หรือตัวร้ายอย่างมิเนอว่าก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ยังไงลองไปเล่นกันได้นะ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ในการจัดทีมของเพื่อนๆ ครับ
13 Jan 2021
แนะนำรูปแบบทีมสุดสำคัญแห่งเกม FAIRY TAIL: Force Unite!
ในเกม FAIRY TAIL: Force Unite! รูปแบบทีมนับว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะมันคือการได้เปรียบและเสียเปรียบในการต่อสู้ ถ้ารูปแบบทีมได้เปรียบก็มีโอกาสทำให้เราชนะได้ในไฟต์นั้น แต่ถ้ารุปแบบทีมเสียเปรียบก็อาจจะบวกไปสู้อีกฝ่ายก็เป็นได้ วันนี้เราเลยจะมาเรียนรู้เรื่องระบบรูปแบบทีมใน FAIRY TAIL: Force Unite! กันครับ รูปแบบทีมคืออะไร? เป็นรูปแบบการวางตำแหน่งกลยุทธ์หรือตำแหน่งการยืนตัวละคร ในเกมนี้มีรูปแบบทีมให้เราเลือกถึง 10 แบบ สามารถปลดล็อกโดยใช้เงิน 1,000,000 จีเวล และสามารถอัปเกรดเพื่อเพิ่มค่าสเตตัสได้ แต่ละรูปแบบทีมจะมีการเพิ่มค่าสเตตัสที่แตกต่างกันออกไป เรามาดูกันว่าแต่ละรูปแบบทีมและสเตตัสจะเหมาะกับสไตล์การเล่นของแต่ละคนไหม รูปแบบทีมทะลวง จุดเด่น : เพิ่ม DMG +0.6% ให้ทุกทุกตำแหน่ง จุดด้อย : ลด SPD -0.3% ชนะทาง : แยกเงา กลยุทธ์ พริบตา แพ้ทาง : ปิดล้อม ปีกราชา หลุมพราง เป็นรูปแบบแรกที่ตัวเกมแจกให้เมื่อทำเควสสำเร็จ มีจุดเด่นคือการเพิ่มดาเมจ +0.6% ให้ทุกตำแหน่ง แต่ลดความเร็ว -0.3% ทุกตำแหน่งเช่นกัน รูปแบบทีมทะลวงเป็นรูปแบบที่เพิ่มดาเมจสูงสุดในเกม ถ้าอัปเกรดจนถึงเลเวลสูงสุดจะเพิ่ม DMG ให้ถึง 12% เลย เหมาะคนที่มีจอมเวทย์พลังโจมตีหนักๆ รูปแบบทีมปีกราชา จุดเด่น : เพิ่มพลังป้องกันโจมตีปกติ พลังเวท SPD, Heal และลด DMG จุดด้อย : ลด SPD ในตำแหน่งที่ 1 และลด Seal Resist ตำแหน่งที่ 2 ชนะทาง : กลยุทธ์ ทะลวง ผจญภัย แพ้ทาง : ปิดล้อม แยกเงา หลุมพราง เป็นรูปแบบทีมที่เพิ่มความถึกให้กับทีมของเราแต่ก็ต้องแลกกับตำแหน่งที่ 1 และ 2 จะถูกลด SPD และ Seal Resist และยังเพิ่ม SPD, Heal พร้อมกับลด DMG ด้วย ทีมปีกราชาเหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีจอมเวทย์ตัวเปราะๆ อย่างเช่น เกรย์ ลัคซัส หรือเวนดี้ รูปแบบทีมพริบตา จุดเด่น : เพิ่ม Heal เป็นจำนวนมาก จุดด้อย : ลด M.Resist และ DMG ชนะทาง : ปิดล้อม แยกเงา ผจญภัย แพ้ทาง : กลยุทธ์ เสมอภาค ทะลวง เป็นรูปแบบทีมที่เหมาะกับคนเล่นตัวละครเวทฟื้นฟูหรือเวทยามากๆ เพราะจุดเด่นของรูปแบบทีมนี้คือการเพิ่ม Heal หรือจะเป็นตัวละครที่เกราะน้อยๆ แล้วใส่จอมเวทย์ที่ทำดาเมจสูงไว้ในตำแหน่งที่เพิ่มดาเมจแค่นี้ก็เป็นทีมที่เฟอร์เฟ็กต์แล้ว จอมเวทย์แนะนำที่เหมาะกับรูปแบบทีมนี้คือ ลัคซัส เกรย์ เอลซ่า และมิร่าเจน รูปแบบทีมแยกเงา จุดเด่น : เพิ่มพลังโจมตีเวท M.ATK อย่างมากให้กับตัวละครผู้เล่น จุดด้อย : ลด SPD -0.3% ชนะทาง : โยกย้าย ปีกราชา ปิดล้อม แพ้ทาง : ทะลวง หลุมพราง พริบตา เป็นรูปแบบที่เพิ่มค่า M.DMG ให้กับตัวละครของเราแต่ละลด DMG แทน เหมาะกับตัวละครที่ใช้ M.DMG เป็นหลัก เช่น สายเวทฟื้นฟู  เวทหิมะ นอกจากนั้นแล้วยังเพิ่ม DMG ให้กับจอมเวทย์ในทีมอีก 2 ตำแหน่ง เป็นรูปแบบที่แน้นการโจมตีหนักๆ เลย รูปแบบทีมเสมอภาค จุดเด่น : เพิ่ม P.DMG ให้ตัวละครเรา จุดด้อย : ลด DMG ของเรา ชนะทาง : หลุมพราง โยกย้าย พริบตา แพ้ทาง : กลยุทธ์ ปิดล้อม ผจญภัย รูปแบบทีมกลางๆ ที่สามารถใช้ได้กับทุกสาย โดยทีมเสมอภาคจะเน้นไปที่การเพิ่ม P.DMG ให้กับตัวละครเราและจอมเวทย์อีก 1 คน ทั้งยังเพิ่ม DMG, Heal และ Seal Resist อีกด้วย เหมาะกับตัวละครสายเวทปืน แล้วก็พกจอมเวทย์ฮีลอย่างเวนดี้ไว้คอยช่วยเหลือ และอย่าลืมพกจอมเวทย์ที่โจมตีแรงไปด้วยสัก 2-3 คนล่ะ อาจจะเป็นเกรย์หรือลัคซัสที่ได้มาฟรีก็ได้ รูปแบบทีมกลยุทธ์ จุดเด่น : เพิ่มพลังป้องกัน จุดด้อย : เพิ่มค่าสเตตัสต่างๆ น้อย ชนะทาง : พริบตา โยกย้าย เสมอภาค แพ้ทาง : ปีกราชา ทะลวง ผจญภัย เป็นรูปแบบที่เน้นการเพิ่มพลังป้องกันซะส่วนใหญ่เหมาะกับสายโจมตีที่พลังป้องกันน้อย แต่ไม่ค่อยแนะนำรูปแบบทีมนี้เท่าไรถึงแม้จะมีการเพิ่มดาเมจให้กับบางตำแหน่งแต่ก็เพิ่มน้อยมาก ถ้าใช้รูปแบบทีมอื่น เช่น ทีมปีกราชา จะคุ้มกว่าถ้าจะเน้นไปทางทีมป้องกัน รูปแบบทีมโยกย้าย จุดเด่น : เพิ่มความเร็ว SPD เยอะ จุดด้อย : ลดพลังป้องกันทั้ง P.ATK และ M.ATK ชนะทาง : ผจญภัย หลุมพราง ปิดล้อม แพ้ทาง : แยกเงา เสมอภาค กลยุทธ์ หรือจะเรียกรูปแบบทีมนี้ว่า "จู๊ค" ดี เพราะมันเพิ่มค่า SPD หรือโจมตีเร็วให้กับตัวละครเราและจอมเวทย์อีก 1 ตำแหน่งเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับตัวดาเมจที่ต้องการจะปิดจ็อบไวๆ แต่อย่าลืมว่ารูปแบบทีมนี้ลดพลังป้องกันด้วย เพราะฉะนั้นอย่าลืมพกจอมเวทย์ฟื้นฟูติดไปสักคนในทีมนะ รูปแบบทีมผจญภัย จุดเด่น : เพิ่มความเร็ว SPD จุดด้อย : ลดพลังป้องกัน M.Resist ชนะทาง : หลุมพราง เสมอภาค กลยุทธ์ แพ้ทาง : โยกย้าย ปีกราชา พริบตา นี่อาจจะเป็นรูปแบบทีมที่โอเคที่สุดเท่าที่เล่นมา รูปแบบทีมนี้เหมาะกับการเอาไปเก็บเลเวลกับพวกกิจกรรมมากๆ เพราะเพิ่ม SPD ให้ถึง 3 ตำแหน่งด้วยกัน แนะนำให้หยิบจอมเวทย์ที่โจมตีแรงๆ แต่ SPD น้อยไป อย่างเช่น เกรย์ และอย่าลืมพกจอมเวทย์ฟื้นฟูไปด้วยเพราะรูปแบบทีมนี้ลดค่าพลังป้องกันควรมีตัวช่วยไว้เพิ่มเกราะ รูปแบบทีมปิดล้อม จุดเด่น : เพิ่มค่า Seal (ผนึก) จุดด้อย : ลด P.Resist ชนะทาง : ปีกราชา ทะลวง เสมอภาค แพ้ทาง : พริบตา แยกเงา โยกย้าย เป็นรูปแบบทีมที่เพิ่มค่า Seal เป็นจำนวนมาก เหมาะสายเวทผนึก เช่น มิเรียน่า คาน่า ตัวฟรีที่เหมาะกับรูปแบบทีมนี้ นอกจากค่า Seal แล้ว ยังเพิ่ม SPD ให้กับตัวละครหลักของเราเยอะมาก และเพิ่ม DMG ให้กับ 2 ตำแหน่ง และลดการได้รับ DMG อีก 1 ตำแหน่ง นับว่าเป็นอีกรุปแบบที่ครบครัน รูปแบบทีมหลุมพราง จุดเด่น : เพิ่มค่าต้านทาน Seal จุดด้อย : ไม่เพิ่มดาเมจ ชนะทาง : ปีกราชา ทะลวง แยกเงา แพ้ทาง : ผจญภัย เสมอภาค โยกย้าย รูปแบบสุดท้ายสำหรับ หลุมพราง รูปแบบนี้เหมาะกับการเอาไปสู้กับศัตรูที่มีสกิลผนึก เช่น ศัตรูในกิจกรรมต่อต้านกิลด์แห่งความมืด เพราะเพิ่มค่าต้านทาน Seal ถึง 3 ตำแหน่งรวมตัวละครของเรา แนะนำให้เอาตัวทำดาเมจใส่ไว้ในตำแหน่งที่เพิ่มต้านทาน Seal จะได้ไม่ถูกหยุดเวลาร่ายสกิลหรือโจมตี ทำให้ไม่เสียเทิร์นนั้นไปเปล่าๆ เช่นเคยอย่าลืมพกจอมเวทย์ที่สามารถบัฟดาเมจได้ไปด้วย เพราะรูปแบบทีมนี้ไม่มีการเพิ่ม DMG นั่นเอง
13 Jan 2021
FAIRY TAIL: Force Unite! ใน 1 วันควรทำอะไรบ้าง
สำหรับเกมอย่าง FAIRY TAIL: Force Unite! เกม RPG บนมือถือที่เน้นการเล่นทุกวันแน่นอนหลายคนคงจะงงว่าควรจะทำอะไรบ้างใน 1 วัน เพื่อให้คุ้มกับการเก็บเลเวลมากที่สุด วันนี้พวกเรา GameFever TH เลยจะมาแนะนำว่าใน 1 วันควรทำอะไรบ้าง ไปดูกันเลย ทำเควสหลัก-รอง เป็นสิ่งแรกๆ ที่ต้องทำในแต่ละวันเลย ยิ่งช่วงเลเวลแรกๆ ยิ่งควรทำเพราะเมื่ออัปเลเวลจะทำให้ปลดล็อคเควสประจำวันตามเลเวลได้ แต่เควสหลักบางครั้งอาจจะยากเกินไปถ้าเราไม่มีทีมประจำมาช่วยตี แนะนำให้ไปทำเควสรองหรือเควสประจำวันก่อน ซึ่งเควสรองจะง่ายกว่าเควสหลักมากและได้ EXP ใกล้ๆ กัน ทำเควสประจำวัน เป็นสิ่งที่มีให้เลือกทำอย่างหลากหลายและยังให้ EXP เยอะมากกกก เหมาะกับสายเก็บเลเวลเป็นที่สุด ที่สำคัญเควสประจำวันยังทำให้เราได้จัดทีมกับคนอื่นสร้างความสัมพันธ์เผื่อจะได้ช่วยกันในเควสหลัีกอีกด้วย เควสประจำวันมีทั้งแบบทีมและแบบเดี่ยวให้เลือกทำ ยิ่งเราเลเวลสูงเท่าไรยิ่งปลดล็อคเควสประจำวันมาให้ทำมากขึ้น และยังให้ของรางวัลเมื่อแต้มกิจกรรมถึงอีกด้วย ซึ่งเควสประจำวันมีให้ทำดังนี้ ภารกิจปราบปีศาจ - ภารกิจที่จะให้เราไปปราบปีศาจจะทำเดี่ยวหรือไปกับทีมก็ได้หมด ภารกิจนี้สามารถทำได้ตลอดทั้งวันแต่จะได้ EXP แค่ 20 ครั้งแรกที่ทำเท่านั้น ขับไล่อสูรร้าย - คล้ายๆ กับปราบปีศาจ แต่เควสนี้ให้เราทำได้แค่วันละ 5 ครั้ง และจะได้ EXP กับเงินจีเวลเมื่อทำเสร็จ ต่อต้านสมาพันธ์บาลาม - เควสนี้จะให้เราไปต่อสู้กับสมาพันธ์บาลามหรือพวกกิลด์แห่งความมืดทั้งหลาย สามารถทำได้ 15 ครั้งต่อวัน เมื่อจบแต่ละด่านจะได้รับ EXP และเงินจีเวล ท้าทายเจราล - เควสที่จะให้เราไปต่อสู้ที่หอคอยสวรรค์ ซึ่งเราจะได้เจอกับลูกน้องของเจราลก่อนที่จะเข้าไปบวกกับเจ้าตัว (เควสนี้หินมากๆ แนะนำให้ไปเป็นทีม) มีทั้งหมด 6 ด่านเมื่อจบแต่ละด่านจะได้รับ EXP และเงินจีเวล แบบทดสอบค่ายฝึก - แบบทดสอบที่จะให้เราต่อสู้กับทีมหัวหน้าเวทพลังต่างๆ มีให้เราตะลุย 10 ด่านด้วยกัน บทเรียนเวทประจำวัน - ตามชื่อเลยเควสนี้จะให้เราเรียนรู้เวทพลังที่เราเลือกมาและนำไปสอนต่อให้กับเด็กๆ ในกิลด์ เป็นเควสที่ปล่อยวิ่งอัตโนมัติได้เลย เมื่อจบจะได้รับ EXP และเงินจีเวล คุ้มกันนักข่าว - เควสนี้ทำแล้วจะไม่ได้ EXP แต่จะได้เป็นเงินจีเวลแทน ทำได้วันละ 3 ครั้ง กดรับรางวัลออนไลน์ เมื่อเราออนไลน์ตามเวลาครบจะมีรางวัลให้เรากดรับตามระยะเวลาที่ออนไลน์ ซึ่งรางวัลแต่ละชิ้นจำเป็นในการอัปความสามารถของเราและทีม รางวัลออนไลน์จะรีเซ็ตทุก 00.00 น. เพราะฉะนั้นอย่าลืมกดทุกวันนะ กู้คืนรางวัลกิจกรรม เมื่อทำเควสหรือกิจกรรมประจำวันเส็จแล้ว อย่าลืมมากดกู้คืนรางวัลกิจกรรมด้วย เพราะนี้คือหนทางที่ทำให้เลเวลพุ่งแบบขั้นสุด ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ มันก็เหมือนการที่เราทำเควสนั้นอีกครั้ง ซึ่งกู้คืนกิจกรรมก็มีให้เราเลือกทั้งแบบฟรี ใช้ Gold และใช้ Diamond แต่ละอย่างจะได้ EXP ตามการเงินที่เราเสียไป ถ้าใช้ Diamond ก็จะได้เยอะกว่าชาวบ้านหน่อย ใครสายเปย์ก็แนะนำเลยเลเวลพุ่งฉิวแน่นอน ภารกิจกิลด์ ถ้ามีกิลด์ล่ะก็อย่าลืมที่จะเข้าไปเช็กอินและทำภารกิจกิลด์เพื่อเอาแต้มอุทิศกิลด์มาอัปเกรดตัวเองหรือจะเอาไว้ซื้อของในร้านค้ากิลด์ก็ได้ ภารกิจกิลด์ก็จะมีการยกย่องมาสเตอร์ของกิลด์ การช่วยกิลเดอร์หาของและต่อสู้กับมอนสเตอร์ หรือจะเป็นการประกวดมิสกิลด์ ภารกิจกิลด์จะรีเซ็ตทุกวันเวลา 00.00 น. อย่าลืมไปทำกันนะโดนเตะออกจากกิลด์จะหาว่าไม่เตือน การอัปเกรด เมื่อเราทำภารกิจต่างๆ ที่บอกมาข้างบนแล้ว อย่าลืมเช็กการอัปเกรดของเราด้วย ซึ่งในเกมก็มีการอัปเกรดเยอะมากกกกและทุกอย่างจะเสริมพลังให้กับเรา การอัปเกรดมีตั้งแต่ อัปเกรดสกิลของตัวเราเองโดยใช้เงินวีเวล อัปเกรดจอมเวทในทีมโดยใช้การ์ดของจอมเวทย์นั้นๆ อัปเกรดสกิลทั่วไป เช่น HP, MP ปรุงอาหาร ทำยา โดยใช้เงินและค่าอุทิศกิลด์ อัปเกรดพลังเวทของเราโดยใช้บัตรฝึกพลังเวท อัปเกรดพลังเวทของจอมเวทย์ในทีมโดยใช้บัตรฝึกฝนพวกพ้อง
13 Jan 2021
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "FAIRY TAIL: Force Unite!"
5 ตัวละคร SS น่าใช้ใน FAIRY TAIL: Force Unite!
ตัวละครระดับ SS นับว่าเป็นคีย์หลักของการจัดทีมใน "FAIRY TAIL: Force Unite!" เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นพลังการโจมตีที่รุนแรงหรือความถึกก็ตามมันทำให้ทีมของเราต่อสู้ได้ง่ายขึ้น วันนี้เลยอยากจะมาแนะนำตัวละคร SS น่าใช้และน่ามีอยู่ในทีม แต่ละตัวมีความแตกต่างและดาเมจที่รุนแรงเหมาะกับทุกสไตล์การเล่นเลยแหละ เอลซ่า วิธีได้รับ : กิจกรรมลงทะเบียนล่วงหน้า จุดเด่น : ถึก สกิลเด่น : กงล้อสวรรค์ ดาบทรินิตี้ เอลซ่า ตัวละครที่เราได้มาฟรีจากกิจกรรมยอดผู้ลงทะเบียนล่วงหน้าถึง 5 แสนคน ความดีงามของเอลซ่าคือเธอเป็นตัวละครที่ถึกมาก แม้สกิลโจมตีจะไม่รุนแรงเท่า SS ตัวอื่นแต่ก็มีสกิลอย่าง "กงล้อสวรรค์ ดาบทรินิตี้" ที่แรงพอจะเก็บศัตรูได้ และสกิลแบบหมู "กงล้อสวรรค์ บลูเมนแบลท" เป็นสกิลที่ศัตรูไม่สามารถป้องกันได้ เธอเหมาะกับทุกรูปแบบทีม สกิลที่ใช้โจมตีมีทั้งแบบหมู่และเดี่ยวถึงจะบอกว่าสกิลไม่แรงเท่าตัว SS ตัวอื่นแต่ก็แรงกว่าจอมเวทย์ระดับต่ำกว่าแน่นอน แถมยังเป็นตัวฟรีที่ได้มาตั้งแต่เวลแรกๆ ช่วยให้เราทำเควสได้ง่ายขึ้นเยอะ ลัคซัส วิธีได้รับ: ล็อคอินครบ 3 วัน จุดเด่น: สกิลแบบหมู่แรง สกิลเด่น: มังกรสายฟ้าคำราม ตัวละคร SS อีกตัวที่ได้มาจากกิจกรรมล็อคอินครบ 3 วัน เป็นตัวที่มาตอนเวลแรกๆ เช่นเดียวกับเอลซ่า ลัคซัสเป็นจอมเวทย์ที่โจมตีแรงและมี SPD สูง ทำให้เวลาเริ่มต่อสู้เขาจะเป็นคนแรกในทีมที่ออกท่าโจมตีก่อน สกิลของลัคซัสส่วนใหญ่จะเป็นแบบหมู่และแรงมาก โจมตีทีหายกันทั้งแถบ เหมาะกับทุกรูปแบบทีม นอกจากสกิล "มังกรสายฟ้าคำราม" ที่ลัคซัสมักจะให้บ่อยๆ แล้ว สกิล "เรจจิ้งโบลท์" ก็แรงไม่แพ้กัน แถมยังมีสกิลแบบเดี่ยวที่โคตรจะแรงอย่าง "ง้าวมังกรสายฟ้าทะยานนภา" เอาไว้เก็บตัวบอสได้สบา่ย นับว่าเป็นตัวที่มีความครบครันเลยทีเดียว เจราล วิธีได้รับ: กิจกรรมเมจิกเฮ้าส์ จุดเด่น: มีสกิลหยุดและโจมตีแรง สกิลเด่น: เวทแห่งท้องฟ้า-สวรรค์ทมิฬ 1 ใน 10 จอมเวทย์ผู้แข็งแกร่งและยังเป็น 1 ในสภาจอมเวทย์ ผู้อยู่เบื้องหลังหอคอยสวรรค์ เจราล ในเกมนี้ก็โหดไม่แพ้ในการ์ตูนเลยด้วยสกิลอย่าง "โบน์เนค" ที่สามารถหยุดศัตรูไม่ให้โจมตีได้เมื่อใช้ "โกสต์ฟลิค" นับว่าเป็นประโยชน์มากในการหยิบไปล่าบอส และสกิล "เวทแห่งท้องฟ้า-สวรรค์ทมิฬ" และ "ดาบเจ็ดดารา" สกิลโจมตีแบบหมู่ที่สร้างความเสียหาย 140% ของพลังเวทแก่ศัตรู 5 คน ใช้ทีหายทั้งกระดานเลยล่ะ กิลดาซ วิธีได้รับ: ซื้อได้ที่ร้านค้า ร้านแฟรี่ สินค้าหายาก จุดเด่น: โจมตีแรงและมีสกิลสลายเวทของศัตรู สกิลเด่น: ทลาย จอมเวทย์ระดับ S จากแฟรี่เทล กิลดาซ ชายผู้ทำลายทุกอย่างที่เขาจับ ในเกมนี้ก็เช่นกันตัวละคร SS กิลดาซ เหมาะสำหรับสายเปย์เป็นที่สุด เขามีสกิล "ทลาย" ที่โคตรจะรุนแรงแถมยังทำดาเมจกับศัตรู 5 คนด้วยความเสียหาย 120% ของพลังโจมตีที่สำสำคัญศัตรูไม่สามารถโต้กลับสกิลนี้ได้ ไม่ใช่แค่สกิลหมู่ที่แรงสกิลเดี่ยวอย่าง "สวรรค์พุ่งชมปีศาจ-ประจักษ์ความจริงพินาศ" ที่สร้างความเสียหาย 300% ของพลังโจมตี แค่นั้นยังไม่พอนอกจากสกิลโจมตีที่รุนแรงตัวกิลดาซยังมีบัฟในการสลายเวทของศัตรูเมื่อโจมตีอีกด้วย อุลเทีย วิธีได้รับ: กิจกรรมในเกม จุดเด่น: ฮีลแรง ชุบเพื่อนทั้งทีมได้ สกิลเด่น: ลาสต์เอจิส ปิดท้ายด้วยตัวละครสายซัพพอร์ต อุลเทีย ลูกสาวสุดสวยของจอมเวทย์น้ำแข็ง อุล เธอไม่ได้เก่งแค่ในการ์ตูนเท่านั้นเพราะในเกมเธอเป็นซัพที่ฮีลโคตรแรงอย่าง "อาร์คแห่งเวลา" ที่ฟื้น HP ให้คนในทีมถึง 4 คน บวกด้วยบัฟจาก "ลอสต์ไทม์" ที่ช่วยให้ Heal Crit เพิ่มขึ้น 3% ไม่เพียงแต่ฮีลเท่านั้นที่เป็นประโยชน์กับทีมเธอยังมีสกิล "ลาสต์เอจิส" ที่สามารถชุบชีวิตเพื่อนในทีมได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีสกิลโจมตีที่ได้มาจากแม่ของเธออย่าง "ไอซ์เมก-โรเซนครานว์" ที่สร้างความเสียหายแบบหมู่ 110% ของพลังเวทอีกด้วย ก็จบลงไปแล้วสำหรับ 5 ตัวละคร SS น่าใช้ใน FAIRY TAIL: Force Unite! เพื่อนๆ คนไหนสนใจก็ลองเอาไปจัดทีมกันได้แต่ละตัวมีประโยชน์มากเลยแหละ แต่ในเกมยังมีตัวละคร SS ที่แข็งแกร่งอีกเยอะไม่ว่าจะเป็นปู่มาคาลอฟ เจ้าชายแห่งเอโดลาสมิสกัน หรือตัวร้ายอย่างมิเนอว่าก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ยังไงลองไปเล่นกันได้นะ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ในการจัดทีมของเพื่อนๆ ครับ
13 Jan 2021
แนะนำรูปแบบทีมสุดสำคัญแห่งเกม FAIRY TAIL: Force Unite!
ในเกม FAIRY TAIL: Force Unite! รูปแบบทีมนับว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะมันคือการได้เปรียบและเสียเปรียบในการต่อสู้ ถ้ารูปแบบทีมได้เปรียบก็มีโอกาสทำให้เราชนะได้ในไฟต์นั้น แต่ถ้ารุปแบบทีมเสียเปรียบก็อาจจะบวกไปสู้อีกฝ่ายก็เป็นได้ วันนี้เราเลยจะมาเรียนรู้เรื่องระบบรูปแบบทีมใน FAIRY TAIL: Force Unite! กันครับ รูปแบบทีมคืออะไร? เป็นรูปแบบการวางตำแหน่งกลยุทธ์หรือตำแหน่งการยืนตัวละคร ในเกมนี้มีรูปแบบทีมให้เราเลือกถึง 10 แบบ สามารถปลดล็อกโดยใช้เงิน 1,000,000 จีเวล และสามารถอัปเกรดเพื่อเพิ่มค่าสเตตัสได้ แต่ละรูปแบบทีมจะมีการเพิ่มค่าสเตตัสที่แตกต่างกันออกไป เรามาดูกันว่าแต่ละรูปแบบทีมและสเตตัสจะเหมาะกับสไตล์การเล่นของแต่ละคนไหม รูปแบบทีมทะลวง จุดเด่น : เพิ่ม DMG +0.6% ให้ทุกทุกตำแหน่ง จุดด้อย : ลด SPD -0.3% ชนะทาง : แยกเงา กลยุทธ์ พริบตา แพ้ทาง : ปิดล้อม ปีกราชา หลุมพราง เป็นรูปแบบแรกที่ตัวเกมแจกให้เมื่อทำเควสสำเร็จ มีจุดเด่นคือการเพิ่มดาเมจ +0.6% ให้ทุกตำแหน่ง แต่ลดความเร็ว -0.3% ทุกตำแหน่งเช่นกัน รูปแบบทีมทะลวงเป็นรูปแบบที่เพิ่มดาเมจสูงสุดในเกม ถ้าอัปเกรดจนถึงเลเวลสูงสุดจะเพิ่ม DMG ให้ถึง 12% เลย เหมาะคนที่มีจอมเวทย์พลังโจมตีหนักๆ รูปแบบทีมปีกราชา จุดเด่น : เพิ่มพลังป้องกันโจมตีปกติ พลังเวท SPD, Heal และลด DMG จุดด้อย : ลด SPD ในตำแหน่งที่ 1 และลด Seal Resist ตำแหน่งที่ 2 ชนะทาง : กลยุทธ์ ทะลวง ผจญภัย แพ้ทาง : ปิดล้อม แยกเงา หลุมพราง เป็นรูปแบบทีมที่เพิ่มความถึกให้กับทีมของเราแต่ก็ต้องแลกกับตำแหน่งที่ 1 และ 2 จะถูกลด SPD และ Seal Resist และยังเพิ่ม SPD, Heal พร้อมกับลด DMG ด้วย ทีมปีกราชาเหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีจอมเวทย์ตัวเปราะๆ อย่างเช่น เกรย์ ลัคซัส หรือเวนดี้ รูปแบบทีมพริบตา จุดเด่น : เพิ่ม Heal เป็นจำนวนมาก จุดด้อย : ลด M.Resist และ DMG ชนะทาง : ปิดล้อม แยกเงา ผจญภัย แพ้ทาง : กลยุทธ์ เสมอภาค ทะลวง เป็นรูปแบบทีมที่เหมาะกับคนเล่นตัวละครเวทฟื้นฟูหรือเวทยามากๆ เพราะจุดเด่นของรูปแบบทีมนี้คือการเพิ่ม Heal หรือจะเป็นตัวละครที่เกราะน้อยๆ แล้วใส่จอมเวทย์ที่ทำดาเมจสูงไว้ในตำแหน่งที่เพิ่มดาเมจแค่นี้ก็เป็นทีมที่เฟอร์เฟ็กต์แล้ว จอมเวทย์แนะนำที่เหมาะกับรูปแบบทีมนี้คือ ลัคซัส เกรย์ เอลซ่า และมิร่าเจน รูปแบบทีมแยกเงา จุดเด่น : เพิ่มพลังโจมตีเวท M.ATK อย่างมากให้กับตัวละครผู้เล่น จุดด้อย : ลด SPD -0.3% ชนะทาง : โยกย้าย ปีกราชา ปิดล้อม แพ้ทาง : ทะลวง หลุมพราง พริบตา เป็นรูปแบบที่เพิ่มค่า M.DMG ให้กับตัวละครของเราแต่ละลด DMG แทน เหมาะกับตัวละครที่ใช้ M.DMG เป็นหลัก เช่น สายเวทฟื้นฟู  เวทหิมะ นอกจากนั้นแล้วยังเพิ่ม DMG ให้กับจอมเวทย์ในทีมอีก 2 ตำแหน่ง เป็นรูปแบบที่แน้นการโจมตีหนักๆ เลย รูปแบบทีมเสมอภาค จุดเด่น : เพิ่ม P.DMG ให้ตัวละครเรา จุดด้อย : ลด DMG ของเรา ชนะทาง : หลุมพราง โยกย้าย พริบตา แพ้ทาง : กลยุทธ์ ปิดล้อม ผจญภัย รูปแบบทีมกลางๆ ที่สามารถใช้ได้กับทุกสาย โดยทีมเสมอภาคจะเน้นไปที่การเพิ่ม P.DMG ให้กับตัวละครเราและจอมเวทย์อีก 1 คน ทั้งยังเพิ่ม DMG, Heal และ Seal Resist อีกด้วย เหมาะกับตัวละครสายเวทปืน แล้วก็พกจอมเวทย์ฮีลอย่างเวนดี้ไว้คอยช่วยเหลือ และอย่าลืมพกจอมเวทย์ที่โจมตีแรงไปด้วยสัก 2-3 คนล่ะ อาจจะเป็นเกรย์หรือลัคซัสที่ได้มาฟรีก็ได้ รูปแบบทีมกลยุทธ์ จุดเด่น : เพิ่มพลังป้องกัน จุดด้อย : เพิ่มค่าสเตตัสต่างๆ น้อย ชนะทาง : พริบตา โยกย้าย เสมอภาค แพ้ทาง : ปีกราชา ทะลวง ผจญภัย เป็นรูปแบบที่เน้นการเพิ่มพลังป้องกันซะส่วนใหญ่เหมาะกับสายโจมตีที่พลังป้องกันน้อย แต่ไม่ค่อยแนะนำรูปแบบทีมนี้เท่าไรถึงแม้จะมีการเพิ่มดาเมจให้กับบางตำแหน่งแต่ก็เพิ่มน้อยมาก ถ้าใช้รูปแบบทีมอื่น เช่น ทีมปีกราชา จะคุ้มกว่าถ้าจะเน้นไปทางทีมป้องกัน รูปแบบทีมโยกย้าย จุดเด่น : เพิ่มความเร็ว SPD เยอะ จุดด้อย : ลดพลังป้องกันทั้ง P.ATK และ M.ATK ชนะทาง : ผจญภัย หลุมพราง ปิดล้อม แพ้ทาง : แยกเงา เสมอภาค กลยุทธ์ หรือจะเรียกรูปแบบทีมนี้ว่า "จู๊ค" ดี เพราะมันเพิ่มค่า SPD หรือโจมตีเร็วให้กับตัวละครเราและจอมเวทย์อีก 1 ตำแหน่งเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับตัวดาเมจที่ต้องการจะปิดจ็อบไวๆ แต่อย่าลืมว่ารูปแบบทีมนี้ลดพลังป้องกันด้วย เพราะฉะนั้นอย่าลืมพกจอมเวทย์ฟื้นฟูติดไปสักคนในทีมนะ รูปแบบทีมผจญภัย จุดเด่น : เพิ่มความเร็ว SPD จุดด้อย : ลดพลังป้องกัน M.Resist ชนะทาง : หลุมพราง เสมอภาค กลยุทธ์ แพ้ทาง : โยกย้าย ปีกราชา พริบตา นี่อาจจะเป็นรูปแบบทีมที่โอเคที่สุดเท่าที่เล่นมา รูปแบบทีมนี้เหมาะกับการเอาไปเก็บเลเวลกับพวกกิจกรรมมากๆ เพราะเพิ่ม SPD ให้ถึง 3 ตำแหน่งด้วยกัน แนะนำให้หยิบจอมเวทย์ที่โจมตีแรงๆ แต่ SPD น้อยไป อย่างเช่น เกรย์ และอย่าลืมพกจอมเวทย์ฟื้นฟูไปด้วยเพราะรูปแบบทีมนี้ลดค่าพลังป้องกันควรมีตัวช่วยไว้เพิ่มเกราะ รูปแบบทีมปิดล้อม จุดเด่น : เพิ่มค่า Seal (ผนึก) จุดด้อย : ลด P.Resist ชนะทาง : ปีกราชา ทะลวง เสมอภาค แพ้ทาง : พริบตา แยกเงา โยกย้าย เป็นรูปแบบทีมที่เพิ่มค่า Seal เป็นจำนวนมาก เหมาะสายเวทผนึก เช่น มิเรียน่า คาน่า ตัวฟรีที่เหมาะกับรูปแบบทีมนี้ นอกจากค่า Seal แล้ว ยังเพิ่ม SPD ให้กับตัวละครหลักของเราเยอะมาก และเพิ่ม DMG ให้กับ 2 ตำแหน่ง และลดการได้รับ DMG อีก 1 ตำแหน่ง นับว่าเป็นอีกรุปแบบที่ครบครัน รูปแบบทีมหลุมพราง จุดเด่น : เพิ่มค่าต้านทาน Seal จุดด้อย : ไม่เพิ่มดาเมจ ชนะทาง : ปีกราชา ทะลวง แยกเงา แพ้ทาง : ผจญภัย เสมอภาค โยกย้าย รูปแบบสุดท้ายสำหรับ หลุมพราง รูปแบบนี้เหมาะกับการเอาไปสู้กับศัตรูที่มีสกิลผนึก เช่น ศัตรูในกิจกรรมต่อต้านกิลด์แห่งความมืด เพราะเพิ่มค่าต้านทาน Seal ถึง 3 ตำแหน่งรวมตัวละครของเรา แนะนำให้เอาตัวทำดาเมจใส่ไว้ในตำแหน่งที่เพิ่มต้านทาน Seal จะได้ไม่ถูกหยุดเวลาร่ายสกิลหรือโจมตี ทำให้ไม่เสียเทิร์นนั้นไปเปล่าๆ เช่นเคยอย่าลืมพกจอมเวทย์ที่สามารถบัฟดาเมจได้ไปด้วย เพราะรูปแบบทีมนี้ไม่มีการเพิ่ม DMG นั่นเอง
13 Jan 2021
FAIRY TAIL: Force Unite! ใน 1 วันควรทำอะไรบ้าง
สำหรับเกมอย่าง FAIRY TAIL: Force Unite! เกม RPG บนมือถือที่เน้นการเล่นทุกวันแน่นอนหลายคนคงจะงงว่าควรจะทำอะไรบ้างใน 1 วัน เพื่อให้คุ้มกับการเก็บเลเวลมากที่สุด วันนี้พวกเรา GameFever TH เลยจะมาแนะนำว่าใน 1 วันควรทำอะไรบ้าง ไปดูกันเลย ทำเควสหลัก-รอง เป็นสิ่งแรกๆ ที่ต้องทำในแต่ละวันเลย ยิ่งช่วงเลเวลแรกๆ ยิ่งควรทำเพราะเมื่ออัปเลเวลจะทำให้ปลดล็อคเควสประจำวันตามเลเวลได้ แต่เควสหลักบางครั้งอาจจะยากเกินไปถ้าเราไม่มีทีมประจำมาช่วยตี แนะนำให้ไปทำเควสรองหรือเควสประจำวันก่อน ซึ่งเควสรองจะง่ายกว่าเควสหลักมากและได้ EXP ใกล้ๆ กัน ทำเควสประจำวัน เป็นสิ่งที่มีให้เลือกทำอย่างหลากหลายและยังให้ EXP เยอะมากกกก เหมาะกับสายเก็บเลเวลเป็นที่สุด ที่สำคัญเควสประจำวันยังทำให้เราได้จัดทีมกับคนอื่นสร้างความสัมพันธ์เผื่อจะได้ช่วยกันในเควสหลัีกอีกด้วย เควสประจำวันมีทั้งแบบทีมและแบบเดี่ยวให้เลือกทำ ยิ่งเราเลเวลสูงเท่าไรยิ่งปลดล็อคเควสประจำวันมาให้ทำมากขึ้น และยังให้ของรางวัลเมื่อแต้มกิจกรรมถึงอีกด้วย ซึ่งเควสประจำวันมีให้ทำดังนี้ ภารกิจปราบปีศาจ - ภารกิจที่จะให้เราไปปราบปีศาจจะทำเดี่ยวหรือไปกับทีมก็ได้หมด ภารกิจนี้สามารถทำได้ตลอดทั้งวันแต่จะได้ EXP แค่ 20 ครั้งแรกที่ทำเท่านั้น ขับไล่อสูรร้าย - คล้ายๆ กับปราบปีศาจ แต่เควสนี้ให้เราทำได้แค่วันละ 5 ครั้ง และจะได้ EXP กับเงินจีเวลเมื่อทำเสร็จ ต่อต้านสมาพันธ์บาลาม - เควสนี้จะให้เราไปต่อสู้กับสมาพันธ์บาลามหรือพวกกิลด์แห่งความมืดทั้งหลาย สามารถทำได้ 15 ครั้งต่อวัน เมื่อจบแต่ละด่านจะได้รับ EXP และเงินจีเวล ท้าทายเจราล - เควสที่จะให้เราไปต่อสู้ที่หอคอยสวรรค์ ซึ่งเราจะได้เจอกับลูกน้องของเจราลก่อนที่จะเข้าไปบวกกับเจ้าตัว (เควสนี้หินมากๆ แนะนำให้ไปเป็นทีม) มีทั้งหมด 6 ด่านเมื่อจบแต่ละด่านจะได้รับ EXP และเงินจีเวล แบบทดสอบค่ายฝึก - แบบทดสอบที่จะให้เราต่อสู้กับทีมหัวหน้าเวทพลังต่างๆ มีให้เราตะลุย 10 ด่านด้วยกัน บทเรียนเวทประจำวัน - ตามชื่อเลยเควสนี้จะให้เราเรียนรู้เวทพลังที่เราเลือกมาและนำไปสอนต่อให้กับเด็กๆ ในกิลด์ เป็นเควสที่ปล่อยวิ่งอัตโนมัติได้เลย เมื่อจบจะได้รับ EXP และเงินจีเวล คุ้มกันนักข่าว - เควสนี้ทำแล้วจะไม่ได้ EXP แต่จะได้เป็นเงินจีเวลแทน ทำได้วันละ 3 ครั้ง กดรับรางวัลออนไลน์ เมื่อเราออนไลน์ตามเวลาครบจะมีรางวัลให้เรากดรับตามระยะเวลาที่ออนไลน์ ซึ่งรางวัลแต่ละชิ้นจำเป็นในการอัปความสามารถของเราและทีม รางวัลออนไลน์จะรีเซ็ตทุก 00.00 น. เพราะฉะนั้นอย่าลืมกดทุกวันนะ กู้คืนรางวัลกิจกรรม เมื่อทำเควสหรือกิจกรรมประจำวันเส็จแล้ว อย่าลืมมากดกู้คืนรางวัลกิจกรรมด้วย เพราะนี้คือหนทางที่ทำให้เลเวลพุ่งแบบขั้นสุด ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ มันก็เหมือนการที่เราทำเควสนั้นอีกครั้ง ซึ่งกู้คืนกิจกรรมก็มีให้เราเลือกทั้งแบบฟรี ใช้ Gold และใช้ Diamond แต่ละอย่างจะได้ EXP ตามการเงินที่เราเสียไป ถ้าใช้ Diamond ก็จะได้เยอะกว่าชาวบ้านหน่อย ใครสายเปย์ก็แนะนำเลยเลเวลพุ่งฉิวแน่นอน ภารกิจกิลด์ ถ้ามีกิลด์ล่ะก็อย่าลืมที่จะเข้าไปเช็กอินและทำภารกิจกิลด์เพื่อเอาแต้มอุทิศกิลด์มาอัปเกรดตัวเองหรือจะเอาไว้ซื้อของในร้านค้ากิลด์ก็ได้ ภารกิจกิลด์ก็จะมีการยกย่องมาสเตอร์ของกิลด์ การช่วยกิลเดอร์หาของและต่อสู้กับมอนสเตอร์ หรือจะเป็นการประกวดมิสกิลด์ ภารกิจกิลด์จะรีเซ็ตทุกวันเวลา 00.00 น. อย่าลืมไปทำกันนะโดนเตะออกจากกิลด์จะหาว่าไม่เตือน การอัปเกรด เมื่อเราทำภารกิจต่างๆ ที่บอกมาข้างบนแล้ว อย่าลืมเช็กการอัปเกรดของเราด้วย ซึ่งในเกมก็มีการอัปเกรดเยอะมากกกกและทุกอย่างจะเสริมพลังให้กับเรา การอัปเกรดมีตั้งแต่ อัปเกรดสกิลของตัวเราเองโดยใช้เงินวีเวล อัปเกรดจอมเวทในทีมโดยใช้การ์ดของจอมเวทย์นั้นๆ อัปเกรดสกิลทั่วไป เช่น HP, MP ปรุงอาหาร ทำยา โดยใช้เงินและค่าอุทิศกิลด์ อัปเกรดพลังเวทของเราโดยใช้บัตรฝึกพลังเวท อัปเกรดพลังเวทของจอมเวทย์ในทีมโดยใช้บัตรฝึกฝนพวกพ้อง
13 Jan 2021